Book,Page,LineNumber,Text 17,0023,001,๘. ทุกขเหตุสูตร 17,0023,002,ว่าด้วยความเป็นทุกข์แห่งเหตุปัจจัย 17,0023,003,[๔๖] พระนครสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย รูปเป็นทุกข์ แม้ 17,0023,004,เหตุปัจจัยที่ให้รูปเกิดขึ้น ก็เป็นทุกข์. ดูกรภิกษุทั้งหลาย รูปที่เกิดจากสิ่งที่เป็นทุกข์ ที่ไหนจะ 17,0023,005,เป็นสุขเล่า? เวทนาเป็นทุกข์ ฯลฯ สัญญาเป็นทุกข์ ฯลฯ สังขารเป็นทุกข์ ฯลฯ วิญญาณ 17,0023,006,เป็นทุกข์ แม้เหตุปัจจัยที่ให้วิญญาณเกิดขึ้น ก็เป็นทุกข์. ดูกรภิกษุทั้งหลาย วิญญาณที่เกิด 17,0023,007,จากสิ่งที่เป็นทุกข์ ที่ไหนจักเป็นสุขเล่า? อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ฯลฯ ย่อมรู้ 17,0023,008,ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็น 17,0023,009,อย่างนี้มิได้มี. 17,0023,010,จบ สูตรที่ ๘. 17,0023,011,๙. อนัตตเหตุสูตร 17,0023,012,ว่าด้วยความเป็นอนัตตาแห่งเหตุปัจจัย 17,0023,013,[๔๗] พระนครสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย รูปเป็นอนัตตา 17,0023,014,แม้เหตุปัจจัยที่ให้รูปเกิดขึ้น ก็เป็นอนัตตา. ดูกรภิกษุทั้งหลาย รูปเกิดจากสิ่งที่เป็นอนัตตา 17,0023,015,ที่ไหนจักเป็นอัตตาเล่า? เวทนาเป็นอนัตตา ฯลฯ สัญญาเป็นอนัตตา ฯลฯ สังขารเป็นอนัตตา 17,0023,016,ฯลฯ วิญญาณเป็นอนัตตา แม้เหตุปัจจัยที่ให้วิญญาณเกิดขึ้น ก็เป็นอนัตตา ดูกรภิกษุทั้งหลาย 17,0023,017,วิญญาณที่เกิดจากสิ่งที่เป็นอนัตตา ที่ไหนจักเป็นอัตตาเล่า? อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่ 17,0023,018,อย่างนี้ ฯลฯ ย่อมรู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว 17,0023,019,กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี. 17,0023,020,จบ สูตรที่ ๙. 17,0023,021,๑๐. อานันทสูตร 17,0023,022,ว่าด้วยความดับแห่งขันธ์ ๕ 17,0023,023,[๔๘] พระนครสาวัตถี. ฯลฯ ครั้งนั้นแล ท่านพระอานนท์เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ 17,0023,024,ประทับ ถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มี